Page 30 - วารสารภูมิอยุธยาฉบับที่ 4.indd
P. 30

พระองค์ทรงเป็นต้นแบบให้นักกีฬาทุกคนได้
                                                                     เรียนรู้และยดึ ถอื ปฏิบตั ิ ดังพระราชดำ� รสั “กฬี า
                                                                     คอื พนื้ ฐานของการดำ� เนนิ ชวี ติ การเลน่ กฬี าทำ� ให้
                                                                     สขุ ภาพดี มนี ำ�้ ใจเปน็ นกั กฬี า รแู้ พ้ รชู้ นะ กอ่ ใหเ้ กดิ
                                                                     ความสามคั คี สรา้ งสรรคป์ ระเทศชาตใิ หร้ งุ่ เรอื ง”

ความสามคั คี สรา้ งสรรคป์ ระเทศชาตใิ หร้ งุ่ เรอื ง” อกี ทง้ั ทรงมี  	 นอกจากทรงรว่ มเลน่ กฬี าแลว้ พระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทร
พระมหากรณุ าธคิ ณุ ตอ่ การกฬี าในทกุ ๆ ดา้ น รวมถงึ การพระราชทาน     มหาภูมพิ ลอดลุ ยเดช ในหลวงรัชกาลที่ ๙ ยังทรงสนพระทัยใน
พระบรมราโชวาทให้แก่วงการกีฬา เพื่อนกั กฬี าและบคุ ลากรท่ี            การออกกำ� ลงั กายเพ่อื สขุ ภาพ เชน่ ว่ิง และเดนิ เรว็ ทรงออก
เกี่ยวข้องน้อมน�ำไปปฏิบัติ เช่น พระบรมราโชวาท ในวันเปิด              ก�ำลังพระวรกายสม่�ำเสมออย่างถูกหลักวิชาการ มีการบันทึก
การแข่งขันกรีฑานักเรียนประจ�ำปีของกระทรวงศึกษาธิการ                  พระชีพจร ความดันพระโลหติ ทั้งก่อนและหลัง ทรงออกกำ� ลงั
ณ กรีฑาสถานแห่งชาติ วันท่ี ๑ ธันวาคม พ.ศ.๒๔๙๘ ว่า                    พระวรกาย ในขณะเดียวกัน ทรงกระตุ้นพระวรกายให้เกิด
“...การกฬี าน้ัน ย่อมเปน็ ทท่ี ราบกนั อยูโ่ ดยท่ัวไปแลว้ วา่ เป็น    ความอบอุ่นก่อนเร่ิมเล่นกีฬา และผ่อนคลายความตึงเครียด
ปจั จยั ในการบรหิ ารรา่ งกายใหแ้ ขง็ แรง และฝกึ อบรมจติ ใจให้        ของกล้ามเนื้อหลังจากออกก�ำลังพระวรกาย ทรงปฏิบัติเช่นน้ี
ผอ่ งแผว้ รา่ เริง รู้จกั แพ้และชนะ ไม่เอารดั เอาเปรียบกนั มี        เปน็ กจิ วตั ร เปน็ แบบอยา่ งในการดแู ลสขุ ภาพทดี่ สี ำ� หรบั พสกนกิ ร
การให้อภยั ซึง่ กนั และกนั สามัคคกี ลมเกลียวกัน อย่างท่ีเรียก        ทวั่ ไป ดงั พระราชดำ� รสั เพอ่ื เชญิ ไปอา่ นในการประชมุ สมั มนาเรอื่ ง
กนั วา่ มนี ำ�้ ใจเปน็ นกั กฬี า ผลของการกฬี า คอื ผลทางรา่ งกาย     การออกกำ� ลงั เพอ่ื สขุ ภาพ วนั พธุ ที่ ๑๗ ธนั วาคม พ.ศ. ๒๕๒๓ วา่
และทางจิตใจ...” ด้วยความสนพระทัยและพระปรชี าสามารถ                   “...รา่ งกายของเรานัน้ ธรรมชาตสิ ร้างมาสำ� หรับใหอ้ อกแรง
ในดา้ นวทิ ยาศาสตรก์ ารกฬี าดงั กลา่ ว สภามหาวทิ ยาลยั มหดิ ลได้     ใชง้ าน มใิ ชใ่ หอ้ ยเู่ ฉยๆ ถา้ ใชแ้ รงใหพ้ อเหมาะพอดโี ดยสมำ่� เสมอ
ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายปริญญาวิทยาศาสตรดุษฎีบัณฑิต                   ร่างกายกจ็ ะแขง็ แรง คล่องแคล่ว และคงทนยั่งยนื ถ้าไม่ใช้
กิตตมิ ศกั ด์ิ สาขาวิชาวทิ ยาศาสตร์การกีฬา แดพ่ ระองค์ เมอ่ื วนั     แรงเลย หรอื ใชไ้ มเ่ พยี งพอ รา่ งกายกจ็ ะเจรญิ แขง็ แรงอยไู่ มไ่ ด้
พฤหัสบดที ี่ ๘ สงิ หาคม พ.ศ. ๒๕๓๔ ดงั คำ� ประกาศราชสดุดี             แตจ่ ะคอ่ ยๆ เสื่อมไปตามลำ� ดบั และหมดสมรรถภาพไปกอ่ น
เฉลมิ พระเกยี รตคิ ณุ ตอนหนง่ึ วา่ “...วทิ ยาศาสตรก์ ารกฬี า เปน็    เวลาอันสมควร ดงั นัน้ ผทู้ ่ีปกติท�ำการงานโดยไม่ได้ใชก้ �ำลัง
สาขาวชิ าการทพ่ี ระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั ทรงสนพระทยั และ        หรือใช้กำ� ลังแต่น้อย จงึ จำ� เป็นต้องหาเวลาออกกำ� ลงั กายให้
ทรงมพี ระปรชี าสามารถยง่ิ นกั ตลอดเวลาหลายทศวรรษทผี่ า่ น            พอเพยี งกบั ความตอ้ งการตามธรรมชาตเิ สมอทกุ วนั มฉิ ะนน้ั จะ
มาจนถึงทกุ วนั นี้ เปน็ ท่ีทราบกันทวั่ ไปวา่ พระราชกจิ อยา่ งหนึง่   เปน็ ทนี่ า่ เสยี ดายอยา่ งยงิ่ ทเ่ี ขาจะใชส้ ตปิ ญั ญาความสามารถ
ในตอนค่�ำ คอื การทรงกฬี า และการบริหารพระวรกายทกุ วนั                ของเขาทำ� ประโยชนใ์ หแ้ กต่ นเอง และแกส่ ว่ นรวมไดน้ อ้ ยเกนิ ไป
มไิ ดข้ าด ทกุ ครง้ั จะทรงพระกรณุ าโปรดเกลา้ โปรดกระหมอ่ มให้        เพราะรา่ งกายอนั กลบั กลายออ่ นแอลงนนั้ จะไมอ่ ำ� นวยโอกาส
แพทยแ์ ละนกั วทิ ยาศาสตรต์ รวจวดั ความเปลยี่ นแปลงทางสรรี วทิ ยา     ใหท้ �ำการงาน โดยมีประสิทธภิ าพได.้ ..”
ในพระวรกายเป็นประจ�ำ ได้ทรงศึกษาในเรื่องวิทยาศาสตร์                  อ้างองิ
การกฬี าเปน็ การสว่ นพระองคม์ าโดยตอ่ เนอ่ื ง นอกจากจะทรงมี          กระทรวงสาธารณสุข. (๒๕๕๐). สาธารณสุขของแผ่นดิน.
พระสขุ ภาพอนามยั แขง็ แรง ทรงเปน็ ตวั อยา่ งแกบ่ รรดาพสกนกิ ร        	 นนทบุร:ี กระทรวงสาธารณสุข.
แลว้ ยงั ทรงพระเมตตาพระราชทานความคดิ และแนวทางปฏบิ ตั ิ              การกีฬาแหง่ ประเทศไทย. (๒๕๕๐). พระมหากษัตริยน์ กั กีฬา.	
ในเรอ่ื งวทิ ยาศาสตรแ์ ละการกฬี าตลอดมา กอ่ ใหเ้ กดิ คณุ ประโยชน์    	 กรงุ เทพฯ: โรงพมิ พ์ดอกเบีย้ .
ทั้งในด้านความสมบูรณ์ของร่างกาย และการพัฒนาอุปนิสัย
ท่ดี งี ามในสว่ นรวมอกี ดว้ ย”

 30

 mภูมaิอgaยzุธiยneา
   25   26   27   28   29   30   31   32