Page 28 - วารสารภูมิอยุธยาฉบับที่ 4.indd
P. 28

ขบวนแหห่ บี ศพนายสมบรู ณ์ สวดมาลยั เวยี นรอบปะรำ� หยวก ทวี่ ดั มะเกลอื            ขบวนแหศ่ พเวยี นรอบเชงิ ตะกอนหรอื ปะรำ� เผาศพทว่ี ดั เขายส่ี าร สมทุ รสงคราม
พทุ ธมณฑล จงั หวดั นครปฐม เมอื่ พ.ศ. ๒๕๑๒ ปะรำ� หยวกหลงั นม้ี ขี นาดสาม           ปะร�ำแบบนี้สร้างอย่างง่ายด้วยไม้และตกแต่งด้วยผ้าหรือกระดาษเม่ือเลิก
หอ้ งความยาวเหมาะสมกบั การตงั้ หบี ศพ ซง่ึ โดยทว่ั ไปชา่ งจะทำ� ปะรำ� หยวก        งานกผ็ ุพงั ไป ต่อเม่ือท�ำงานใหม่กแ็ ตง่ กนั ทหี นงึ่ (ภาพจากพิพธิ ภัณฑพ์ ืน้ บ้าน
มขี นาดแคเ่ พยี งหอ้ งเดยี ว เมอื่ ตงั้ ศพสว่ นหวั และทา้ ยและโลงกจ็ ะยนื่ ออกมา  เขายี่สาร สมทุ รสงคราม)
มาก เปน็ ไปไดว้ า่ ปะรำ� หยวกขนาดหอ้ งเดยี วนนั้ อาจออกแบบมาเพอื่ ใชส้ ำ� หรบั
ต้ังโกศซึ่งมีลักษณะเปน็ แนวสงู ข้ึนไปมากกว่า เมอ่ื นำ� มาใช้กบั หบี ศพชา่ งไม่
ได้ปรับขนาดจงึ ดูย่ืนยาวเช่นน้นั (ภาพจากหนงั สืออวดภาพเก่าเลา่ ความหลงั )

   ภาพท่ี ๒ ปะรำ� เผาศพท่วี ัดเขายี่สาร เป็นปะร�ำแบบชาวบ้านท่สี รา้ งอยา่ งง่าย ตกแต่งด้วยผา้ หรอื กระดาษ
ทม่ี า : แสนประเสริฐ ปานเนียม , สมุดภาพเมรเุ มอื งเพชร, (เพชรบรุ ี : มหาวทิ ยาลยั ราชภัฏเพชรบรุ ,ี ๒๕๕๓), ๓๕.

คอื สรา้ งขน้ึ เพอื่ ใชง้ านชว่ั คราวตามระยะเวลาทจ่ี ำ� เปน็ ตอ้ งใช้ จงึ         เกยี่ วขอ้ งโดยนำ� มาผนวกกบั พธิ กี ารปลงศพทแี่ ตเ่ ดมิ เคยเรยี บงา่ ย
ต้องมีการออกแบบให้รื้อถอนง่าย ไม่มีรากฐานยึดติดลงในดิน                            จึงมีพิธีกรรมมากขึ้นเพื่อตอบสนองคติความเชื่อในเร่ือง
แต่ต้องมีความแข็งแรงและถูกต้องสวยงามตามลักษณะ                                     ดงั กลา่ ว การตัง้ ศพหรอื การกอ่ สร้างโรงพธิ ีทใี่ ช้สำ� หรับปลงศพ
สถาปตั ยกรรมไทย ประเพณเี มรลุ อยมที ง้ั ประเภททเี่ ผาศพแลว้                       จึงมีพัฒนาการทางรูปแบบอย่างต่อเน่ือง ซ่ึงมักจะเน้นให้มี
ตัวเมรยุ ังอยู่ และประเภทเผาศพแลว้ เผาเมรุไปด้วยพรอ้ มกัน๘                        ขนาดสูงชั้นขึ้นไปเพื่อแทนความหมายของเขาพระสุเมรุ ท้ังนี้
	 ประพฒั น์ วรทรพั ย์ กลา่ ววา่ เมรลุ อย หมายถงึ อาคาร                            เพอ่ื เปน็ การสอ่ื ใหเ้ หน็ วา่ สรวงสวรรคค์ อื ดนิ แดนหลงั ความตาย
ท่ีเผาศพที่เป็นสถาปัตยกรรมไม้ชั่วคราวท่ีใช้ในการเผาศพ                             ของผวู้ ายชนมอ์ นั เปน็ ทร่ี กั ๑๑ พระมหากษตั รยิ เ์ ปรยี บเสมอื นองค์
ทีส่ รา้ งเลียนแบบเมรหุ ลวง หรือเมรเุ จา้ นาย มกี ารใชง้ านท่ี                    สมมตเิ ทพ เมอื่ ประทบั ทใ่ี ด สถานทน่ี น้ั เสมอื นการจำ� ลองมาจาก
ไม่เป็นหลักแหล่ง เป็นสถาปัตยกรรมท่ีตั้งอยู่บนพื้นดินไม่มี                         สรวงสวรรค์ คร้ันถึงกาลสวรรคตที่จะเสด็จไปสู่เทวพิภพ
การฝังรากฐานลงไปในพื้นดิน สามารถสร้างและถอดออก                                    ณ ดนิ แดนเขาพระสเุ มรตุ ามคตคิ วามเชอื่ จะตอ้ งประกอบพระราช
เคลอื่ นย้ายไปประกอบในพ้นื ท่แี ห่งใหม่ได้ ๙                                      พธิ ถี วายพระเพลงิ พระบรมศพ ณ ทอ้ งสนามหลวง เพอ่ื อญั เชญิ ให้
	 โดยสรุป เขาพระสุเมรุ มีความโดดเด่นหลายประการ                                    พระมหากษัตริย์ได้ไปถึงภพแห่งความดีงามอันมีแดนอยู่ท่ี
และเป็นที่คุ้นเคยอย่างดีในหมู่พุทธศาสนิกชน รวมทั้งเป็น                            เขาพระสเุ มรุ สง่ิ กอ่ สรา้ งในพระราชพธิ ที งั้ ปวงจงึ สรา้ งใหม้ ลี กั ษณะ
แรงบันดาลใจให้เกิดการสร้างศิลปกรรมท่ีเก่ียวเน่ืองมากมาย                           เปน็ ปราสาทราชวงั แมก้ ารถวายพระเพลงิ กถ็ วายในพระมหาปราสาท
ดงั นนั้ จากวรรณกรรมไตรภมู ิ อนั เปน็ แนวความคดิ และอดุ มคติ                      อย่างสมพระเกียรติยศ๑๒ ในรูปแบบของพระเมรุมาศ อันเป็น
ในพุทธศาสนา กับแนวพิธีปฏิบัติ คติตามระบบเทวราชาของ                                สง่ิ ปลกู สรา้ งชว่ั คราว หรอื ในภาษาสามญั เรยี กวา่ “เมรลุ อย” นนั่ เอง
ศาสนาพราหมณ์ จึงส่งอิทธิพลทางด้านแนวความคิดและคติ                                 	 หากทา่ นใด ตอ้ งการรายละเอยี ดเพมิ่ เตมิ สามารถคน้ ควา้
ความเชื่อเกี่ยวกับเร่ืองของสวรรค์ ความเป็นสมมติเทพ และ                            ตอ่ ไดท้ ่ี ศนู ยข์ อ้ มลู สถาบนั อยธุ ยาศกึ ษา ในวนั และเวลาราชการ
เขาพระสุเมรุซ่ึงมีฐานะเป็นศูนย์กลางของจักรวาล๑๐ เข้ามา                            หรอื สอบถามได้ท่ี ๐๓๕-๒๔๑-๔๐๗

๘อรศิริ ปาณนิ ท์ , “เมรหุ ลวงป่สู ิม พุทธาจารโร (พระญาณสิทธาจารย)์ ส�ำนกั สงฆถ์ ำ้� ผาปล่อง เมรุหลวงปใู่ ช่ วกั ป่าลิไล-วัลย์ (วดั เขาฉลาก)”, ใน
	สรรคส์ ร้างอย่างไทย ผลงานสรา้ งสรรคส์ ถาปตั ยกรรมไทยฝีมอื วนดิ า พงึ่ สุนทร, (กรุงเทพฯ : มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, ๒๕๔๑),๕๘-๕๙.
๙	ประพัฒน์ วรทรพั ย์, เมรุลอยชา่ งอยุธยา, (วิทยานิพนธป์ รญิ ญาศลิ ปศาสตรม์ หาบณั ฑิต สาขาไทยคดีศึกษา บัณฑิตวิทยาลยั มหาวทิ ยาลัยราชภฏั 	
	นครปฐม,๒๕๕๔), ๘๕-๘๖.
๑๐แสนประเสริฐ ปานเนียม , สมุดภาพเมรเุ มอื งเพชร, (เพชรบุรี : มหาวทิ ยาลัยราชภฎั เพชรบุรี, ๒๕๕๓),๕.
๑๑เรื่องเดยี วกนั ,หนา้ เดียวกัน
๑๒ยมิ้ ปัณฑยางกูร , งานพระเมรมุ าศสมยั กรุงรตั นโกสนิ ทร์,๒๑๕ – ๒๑๖

 28

 mภูมaอิgaยzธุ iยneา
   23   24   25   26   27   28   29   30   31   32